วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

V__vacance^ ^




ปิดเทอมซะเเละ !!!
คิดถึงเพื่อน ๆน่าดูเลย

แปลกเนอะ
พอเปิดอยากปิด พอปิดอยากเปิด
คิดถื้ง - คิดถึง
คิดถึงอาคารเรียน ห้องเรียน เสาธง กระดานดำ โรงอาหาร คุณครูที่คอยสอนเรื่องดี ๆให้แก่ลูกศิษย์
และก็เพื่อน ๆทุกคน ________^.^

ถึงโลกจะพัง
กะละมังจะยุบ
มิตรภาพอันแสนสุข
จะไม่ยุบเหมือนกะละมัง -- --

และสุดท้าย.....ก็อยากให้อาจารย์เกรียงไกรดูเเลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วยคะ ______><{*-*}
Repose-toi bine
et Soigne-toi bien ♥♥♥♥♥

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

Paris Travel^ ^

Travel
Paris is the capital city of France and is located in vle-de-France region, on the Seine river, with an estimated population of 2,153,600 inhabitants. The Paris region is the France's center of economic activity and also in paris are located the main offices of important organizations such as: UNESCO, NATO, the OECD, the ICC.
Paris is not only an economic center but also a learning and cultural city, the fashion of Paris is well known around the world, many famous fashion designers make their events in this city. During the first to fifth century Paris was called Lutetia but after this period it adopted its actual name. Paris is sometimes called 'The City of Light' because its cultural life and intellectual preeminance and also for its beautiful appearance. The French capital is one of the most wonderful cities around the world.

^^__________><________^//^____^o^____*0*_________~~!!__________^^

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

เรื่องน่ารู้กับฝรั่งเศส><


พื้นที่
ฝรั่งเศสมีพื้นที่ 550,000 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง (เขตเศรษฐกิจจำเพาะมีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ล้านตารางกิโลเมตร)
ภูมิประเทศ
พื้นที่ประมาณสองในสามของประเทศฝรั่งเศสเป็นที่ราบ เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เทือกเขาแอล์ปซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) สูง 4,807 เมตร เทือกเขาปิเรเนส์ เทือกเขาจูรา เทือกเขาอาร์แดนส์ เทือกเขามาสซิฟ ซองทราลและเทือกเขาโวจช์ ประเทศฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลอยู่ถึง 4 ด้าน คิดเป็นความยาวรวมทั้งสิ้น 5,500 กิโลเมตร
ภูมิอากาศ
มี 3 แบบคือ
แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (บริเวณตะวันตกของประเทศ)
แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ทางตอนใต้ของประเทศ)
แบบภาคพื้นทวีป (ทางตอนกลางและภาคตะวันออกของประเทศ)
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
พื้นที่เกษตรกรรมและทำป่าไม้มีประมาณ 48 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ 82 ของพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศ (เฉพาะฝรั่งเศสส่วนภาคพื้นทวีป)


พื้นที่ป่ามีประมาณร้อยละ 30 และนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรปรองจากสวีเดนและฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 1945 พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และถ้าพูดถึงในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
ฝรั่งเศสมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆในยุโรปเพราะมีพันธุ์ไม้มากถึง 136 ชนิด ในส่วนของสัตว์ใหญ่ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ภายในช่วงระยะเวลา 20 ปี จำนวนของสัตว์ประเภทกวางเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า
ประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับมรดกทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงได้มีการจัดตั้ง- อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง- ป่าสงวน 156 แห่ง- เขตรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่า 516 แห่ง- รวมทั้งประกาศให้พื้นที่อีก 429 แห่งเป็นเขตอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล- นอกจากนี้ยังมีอุทยานธรรมชาติตามภูมิภาคต่างๆ อีกกว่า 37 แห่งซึ่งกินพื้นที่กว่าร้อยละ 7 ของประเทศ

ในระดับนานาชาติ ฝรั่งเศสเป็นภาคีของสนธิสัญญาและอนุสัญญาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

สมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ^^


สมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3

จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
(Napoléon III de France)
หรือเป็นที่รู้จักกันในพระนาม หลุยส์-นโปเลียน โบนาปาร์ต
(20 เมษายน พ.ศ. 23519 มกราคม พ.ศ. 2416) ประธานาธิบดีพระองค์แรกแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
ต่อมาได้กลายเป็นจักรพรรดิ
แห่งจักรวรรดิฝรั่งเศสในพระนาม
จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 โดยการก่อ
รัฐประหาร พระองค์ยังถือว่าเป็นประธานาธิบดีพระองค์แรก
ของสาธารณรัฐฝรั่งเศสและจักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของ

ประวัติ ___________^ ^
เจ้าชายหลุยส์-นโปเลียน ประสูติ ณ กรุงปารีส เป็นโอรสพระองค์ที่ 3
(จากการสมรสครั้งแรก) พระมเหสีในจักรพรรดินโปเลียนที่ 1
ในรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 พระบิดา - มารดาของพระองค์
ได้รับตำแหน่งให้เป็นกษัตริย์และพระราชินีแห่งราชอาณาจักรฮอลแลนด์
ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นของจักรวรรดิฝรั่งเศส แต่ภายหลังจากการพ่ายแพ้
และลงจากตำแหน่งของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในปี พ.ศ. 2358
และการกลับมาของราชวงศ์บูร์บงในประเทศฝรั่งเศส
สมาชิกราชวงศ์โบนาปาร์ตได้ถูกเนรเทศออกจากประเทศฝรั่งเศส
ส่งผลให้หลุยส์-นโปเลียน ผู้เยาว์วัยได้เติบโตขึ้นมาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
(อาศัยกับพระมารดาในมลรัฐเล็กๆ ชื่อว่า Thurgau)
และในประเทศเยอรมนี (ได้รับการศึกษาที่โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัย เมืองออกซ์บูร์ก บาวาเรีย)
ในฐานะหนุ่มวัยเยาว์เขาได้อาศัยในประเทศอิตาลี
ในที่ๆ พระเชษฐา นโปเลียน หลุยส์ ได้สนับสนุนการปกครองแบบเสรีนิยม
และมีส่วนร่วมกับคาร์โบนารี องค์กรต่อต้านอิทธิพลของออสเตรีย
ในดินแดนตอนเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งต่อมาจะมีอิทธิพลต่อการปกครองของพระองค์
ในนโยบายการต่างประเทศ
____________________________________~^ ^

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

ดอกไม้ในฝรั่งเศส ^ ^

^ ^ ___ สินค้าในร้านดอกไม้ (chez le fleuriste) ___^ ^

-une tulip(ตูลีฟ) - ดอกทิวลิปมีหลายสี
- un chysanthème (คริซองแตม) - ดอกเบญมาศมีหลายสี
เป็นดอกไม้วัน Toussaint
- une narcisse (นาร์ซีส) - ดอกนาร์ซีสหรือฌงกีย์เป็นดอกไม้สีขาว
- une jonquille (ฌงกีย์) สีเหลืองมีไส้ในสีแดงกลิ่นหอม
- une amaryllis (อมาริสลิส) - ดอกอมาริสลิส บางทีเรียกว่า
ดอกพลับพลึงแซงค์ฌาค เป็นดอกใหญ่สีแดงกลิ่นหอม
- une jacinthe (ฌาแซงค์) - เป็นดอกไม้สีสวยมีทุกสี ดอกเป็นพุ่ม
(fleurs en grappes) กลิ่นหอมและดอกอยู่ได้นาน มักจะปลูก
ใส่กระถางไว้หน้าบ้าน
- un oeillet (เอยเย่) - ดอกคาร์เนชั่น มีหลายสี
- un glaieul (กลาเย่) - ดอกกลาดิโอลัส คล้ายดอกซ่อนกลิ่น มีหลายสี
- une rose (โรซ) - ดอกกุหลาบ มีหลายพันธุ์ หลายสี สวยงามมาก
- un lis หรือ lys (ลีส) - ดอกพลับพลึงเป็นดอกไม้สีขาวกลิ่นหอม
เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศฝรั่งเศส
- une orchidée (ออร์ชิเด้) - ดอกกล้วยไม้ (เป็นสินค้าเข้า) ดอกไม้อื่นๆ
ในฝรั่งเศสที่ควรรู้จัก
- une glycine (กลีซีน) - ไม้เถา ดอกเป็นพวงยาวสีม่วงปนขาว
และชมพูอ่อนกลิ่นหอมเย็นมักจะปลูกบนร้านริมรั้วหรือข้างบ้าน
- un pivot (ปาโว) - เป็นดอกไม้ป่าที่เกิดในทุ่ง ดอกสีแดงทำให้ท้องทุ่ง
- un coquelitcot (กอกเกอลิโก) - สวยงามเป็นวัชพืช (une mauvaise herbe)
ดอกสีแดงของดอกไม้ชนิดนี้ทำให้มีคำเปรียบเทียบว่าดอกกอกเกอลิโก
- une lavande (ลาวองด์) - ดอกลาแวนด้า เป็นดอกไม้แถบเมดิเตอร์เรเนียน
นำไปทำน้ำหอม
- un edelweiss (เอคแดลไวส์) - ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ภูเขาแอลป์
ระดับสูงตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไปรูปดอกคล้ายปลาดาวกลีบดอกมีลักษณะ
เป็นกำมะหยี่มีสีขาวไส้ในสีแดงหรือเหลืองบางทีเรียก Pied de lion
(เท้าสิงโต) หรือ Etole d’argent (ดาวเงิน)
- une marguerite (มาร์เกอริต) - ดอกมาร์กาเร็ต เป็นดอกไม้ป่าสีขาว
ที่ประดับท้องทุ่งเหมือนดอก coguelicots
- un tournesol (ทูร์นซอล) - ดอกทานตะวัน
- un muguet (มูเก) - ดอกมูเกมีกลิ่นหอมเป็นดอกไม้ที่ให้กันในวันที่ 1 พฤษภาคม......*